จากกรณีวันพฤหัสบดีที่ 5 พ.ย.63 ยายชาวภูเก็ตร้องทุกข์ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ หลานชาย 5 ขวบนักเรียนชั้นอนุบาล 3 ถูกครูประจำชั้นถีบหน้า ซ้ำให้เพื่อนรุมเตะต่อยบาดเจ็บตามตัว ดวงตาพร่ามัวมองไม่ชัด ครูจ่ายค่าทำขวัญ 5 พันบาท หวังจบเรื่อง แต่ย่าต้องการนำเงินไปคืน เพราะเกรงว่าครูคนนี้จะมีพฤติกรรมไปทำกับเด็กคนอื่นอีก ต้องการดำเนินคดีเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ขอมูลนิธิปวีณาฯ ให้ความเป็นธรรม
จากนั้นนางปวีณาได้ ประสาน พล.ต.ต.ภรศักดิ์ นวลหนู ผบก.จ.ภูเก็ต และ พ.ต.อ.สุจินต์ นิลบดี ผกก.สภ.วิชิต จ.ภูเก็ตให้ย่าเด็กเข้าแจ้งความ พร้อมประสาน ดร.ชนะ สุ่มมาตย์ ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนสพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ ตรวจสอบครูกระทำรุนแรงต่อเด็กในโรงเรียนทันที และได้ประสานนายกิตติ อินทรกุลพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ภูเก็ต พร้อมทั้ง น.ส.อัจฉรา สุระกุล หัวหน้า บ้านพักเด็กและครอบครัวจ.ภูเก็ต เข้าช่วยเหลือเด็ก
วันศุกร์ที่ 6 พ.ย.63 พล.ต.ต.ภรศักดิ์ นวลหนู ผบก.จ.ภูเก็ต และ พ.ต.อ.สุจินต์ นิลบดี ผกก.สภ.วิชิต จ.ภูเก็ต ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานผลตรวจร่างกายเป็นที่เรียบร้อย จนสรุปพยานหลักฐานได้ในช่วงเย็นพนักงานสอบสวน สภ.วิชิต จ.ภูเก็ต จึงได้เรียกครูประจำชั้นที่ก่อเหตุมาแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ซึ่งครูให้การรับสารภาพขณะที่ชุดเฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และให้ครูประจำชั้นงดการสอนทุกระดับชั้น และย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายธุรการ ด้านสำนักงานยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต ได้รับเรื่องคำขอรับค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญาแล้ว
ล่าสุดวันอาทิตย์ที่ 8 พ.ย.63 นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายกิตติ อินทรกุล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต นางสาวอัจฉรา สุระกุล หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต อัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ ผู้อำนวยการโรงเรียน ลงพื้นที่เยี่ยมยายและหลานชาย 5 ขวบนักเรียนชั้นอนุบาล 3 ที่ถูกครูประจำชั้นถีบหน้า เพื่อให้กำลังใจเด็กและครอบครัว พร้อมให้คำปรึกษาแนะนำแนวทางการดำเนินงานเพื่อช่วยเหลือคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตามความเหมาะสม ภายใต้กระบวนการการทำงานร่วมกันของทีมสหวิชาชีพ และทางสำนักงานพัฒนาสังคมฯ จ.ภูเก็ต จะได้ประสานโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อตรวจประเมินเด็กทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และพฤติกรรม อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งมูลนิธิปวีณาฯ จะได้ติดตามความช่วยเหลือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น